Change ตอนที่ 2
ถ้ายังไม่เคยอ่านตอนที่ 1 แนะนำให้ไปอ่านกันก่อนได้ที่ลิงค์นี้นะครับ Change ตอนที่ 1
สัปดาห์ที่ 4 นี้เป็นสัปดาห์ที่ผมตัดสินใจแล้วว่าเปลี่ยนหัวข้อ Project แน่ๆ
เพราะไม่ไหวแล้วกับปริมาณมาตรฐานที่เยอะขึ้นจนหน้าตกใจ
อย่างไรก็ตามผมไม่ใช่คนที่บอกว่าถ้าจะล้มผมจะไม่ลุก
ผมเตรียมแผนสำหรับการลุกไว้แล้วครับ สิ่งนั้นผมเรียกมันว่า MeetUp เป็นแนวคิดการสร้าง Social Network ที่เป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมหรือหาคนได้ถูกกลุ่มซึ่ง
ตอนไอเดียนี้ออกมาในทีแรกนั้นผมแฮปปี้กับมันมากครับ ความคิดต่างๆ
พรั่งพรูออกมาเหมือนกับสายน้ำตก วางรูปแบบโครงสร้างคร่าวๆ
ผ่านไดอะแกรมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังต้องโฟกัสอยู่ที่ Project เก่าอยู่
เป็นเรื่องที่พอมาคิดตอนนี้เป็นอะไรที่ตลกมากที่จะเปลี่ยน Project แต่ยังมีแผนงานสำหรับอาทิตย์หน้าสำหรับ Project เก่าอยู่
ก่อนหน้าจะถึงวันรายงานความคืบหน้า
ผมมีประชุมร่วมกับกลุ่ม CSAG ซึ่งก็ได้ขอความเห็นจากที่ประชุมด้วยว่า
Project ใหม่ที่วางแผนเอาไว้
มันยังมีส่วนไหนที่ยังขาดเหลืออยู่มั้ย
ในตอนนั้นน้องคนหนึ่งในกลุ่มได้ให้ความเห็นมาว่าถ้าจะสร้าง Product อะไรสักอย่าง พยายามคิดถึง Core คิดถึงอะไรที่ทำ 20%
แล้วได้ผลลัพธ์กลับมา 80% ไม่ใช่ทำ 80% แต่ได้ผลลัพธ์กลับมา
20% ความคิดนี้ทำให้ผมคิดถึงแต่ไอเดียหลักในตอนนั้น
ไม่ได้คิดถึงระบบสนับสนุนหรือฟีเจอร์อย่างอื่นเลย
รายงานความคืบหน้าสัปดาห์ที่ 4.5 (เลื่อนมา 1 อาทิตย์เพราะสอบกลางภาค) ยังคงเรียบร้อยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
กลุ่มผมรายงานความคืบหน้า Project ทั้งหมดหลังจากนำเสนอครั้งที่แล้ว
ซึ่งก็คือการทำ Proof of Concept ของ
Project ซึ่งในสัปดาห์นี้ได้นำ Agile มาใช้เต็มตัวมีการใช้ Kanban Board รวมถึง Burndown
Chart ในการวัดประสิทธิภาพในการทำงาน
ซึ่งตอนก่อนนำเสนอผมคิดว่ามันหล่อมาก แต่พอนำเสนอจริงๆ ไม่มีใครสนใจเลย - -" ปัญหาที่พบในสัปดาห์นี้คือในส่วนของ Data Center ต้องเปลี่ยนไปใช้ MySQL แทน PostgreSQL ที่เลือกตั้งแต่แรก ในส่วนของ Web App ก็มีปัญหาไม่สามารถใส่ข้อมูลบาง Attribute ได้เนื่องจากเอกสารที่มีอยู่บอกไว้ไม่ครบถ้วนและสุดท้าย Mobile App ก็ยังไม่สามารถทำ Proof of Concept ได้เลยแม้แต่หัวข้อเดียว
พอนำเสนอความคืบหน้าเสร็จ ความมั่นใจที่จะเปลี่ยน Project
เปลี่ยนสภาพเป็นความกดดัน เปลี่ยนดี ไม่เปลี่ยนดี
เพื่อนกลุ่มที่รอรายงานต่อ ถึงขั้นยกป้ายเชียร์พร้อมกับส่งซิกให้ว่า เปลี่ยนเลย
เปลี่ยนเลย เปลี่ยนเลย!
วินาทีที่ตัดสินใจเปลี่ยนแล้วอาจารย์ถามว่ามีหัวข้อเตรียมไว้รึเปล่า
ตอนนั้นยังมีความมั่นใจว่ามันต้องออกมาดีแน่ๆ ก็เล่า Concept
ส่วนสำคัญไป (ไอเดียมาจาก 20/80 นี่แหละถึงพูดแค่ส่วนสำคัญ)
พอนำเสนอเสร็จเกิดความเงียบขึ้นนานไม่กี่อึดใจ แต่เหมือนหลายนาที
คำตอบที่ได้จากอาจารย์ที่ปรึกษาคือ มันยังน้อยเกินไปสำหรับ 3 คน ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนฝันสลาย
คุณเคยเดินขึ้นบันไดแล้วอยู่ๆ มันก็หายไปขั้นนึง ตอนคุณกำลังจะเหยียบ
ความรู้สึกแบบนั้นแหละครับ เฟลมาก ยังกับคนอกหัก
ผมสูญเสียความมั่นใจไปพอสมควรเลยหลังจากวันนั้น ไม่กล้าคิดอะไรใหม่ๆ อีกต่อไปแล้ว
เพราะกลัวว่าที่คิดไปมันยังเล็กไปอยู่
หลังจากวันนั้นผมพักตัวเอง 1 วันเต็ม ไม่คิดอะไรเกี่ยวกับ Project เลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ความรู้สึกผิดหวังมันก็ยังรบกวนจิตใจอยู่เรื่อยๆ ตลอดพอวันที่ 2 ผมตัดสินใจเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาใหม่
ในเวลานั้นยังเชื่อว่าที่หัวข้อใหม่ไม่ผ่านเป็นเพราะว่าตัวเองอธิบายแค่ 20% ยังเหลืออีก 80% ที่ยังไม่ได้อธิบายไป คราวนี้เอาไดอะแกรมที่ออกแบบไว้ไปให้อาจารย์ดูเลย
ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิมครับ มันยังเล็กเกินไปสำหรับ 3 คน เนื่องจากอาจารย์คงจะดูออกว่ายังมีอะไรคาใจอยู่ในตัวผม เลยหยิบ Project ของรุ่นพี่มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ระบบ Social Network อะไรหลายๆ อย่างคล้ายกันมาก
แต่ไอเดียหลักของพี่เค้าคือระบบการแนะนำหรือ Recommender
system ซึ่ง ตัว Algorithm ของ Project พี่เค้านั้นคำนวณละเอียดมากเกือบทุก
element ที่ผู้ใช้ใช้งานได้เลย ณ
จุดนั้นผมถึงรู้จริงๆ ว่ามันเล็กไป ไม่ใช่เล็กธรรมดา เล็กโคตรๆ เลย
หลังจากนั้นแล้วอาจารย์ก็เลยเสนอทางเลือกให้สามทางดังนี้ครับ
เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ก็ไม่รู้ที่เช้าวันนั้นก่อนจะเข้าไปคุยกับอาจารย์ผมดู
The Social Network หาแรงบันดาลใจอยู่
ซึ่งก็ได้สิ่งที่อยากทำเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่างคือเขียน Algorithm
ที่มันซับซ้อนมากๆ ใน Project พอได้เห็นไอเดียอันสุดท้ายมันตอบโจทย์พอดีครับ
ทุกอย่างต้องออกแบบเองใหม่หมด และที่สำคัญคือ Algorithm ในการรวมผลลัพธ์จากหลายๆ แบบสอบถาม อันนี้คือสิ่งผมคิดว่าในที่สุด
ผมก็เจอสิ่งที่อยากทำแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่ไอเดียตัวเองแต่แรกก็เถอะ
ทีแรกผมว่าจะเขียนเรื่องเปลี่ยนหัวข้อ Project นี่แค่ 2 เอนทรี่แต่ดูแล้วคงจะไม่พอแน่ๆ เพราะฉะนั้นในตอนที่ 3 ผมจะมาพูดเรื่อง Project ใหม่ๆ เนื้อๆ เน้นๆ เลยจนถึงปัจจุบัน
1st Pitching Idea with my project team #NSFW
Comments