TEDxBKK 2012

     เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมได้รับเลือกให้เข้าร่วมงาน TEDxBKK ซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีที่ 3 แล้วนะครับสำหรับ งานนี้ อันที่จริงแล้วงานนี้ผมได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่รู้จักครับ แต่เนื่องจากในงานมีที่นั่งจำกัดแค่ 100 ที่นั่งจึงต้องทำการสมัครไป นับว่าเป็นความโชคดีของผมมากที่ได้รับเลือกในครั้งนี้ พอถึงวันงานไปแบบงงๆ นึกว่าจะเป็นคนที่เด็กที่สุดในงานปรากฏว่าไปเจอน้องคนนึงอยู่ปี 2 เรียนเศรษฐศาสตร์ มานั่งข้างๆ ก็เลยเห้อผมไม่เด็กสุดแล้ว

      TEDxBKK เป็นงาน TED ที่อาศัยหลักการที่ว่าจัดโดยองค์กรอื่นที่ไม่ใช่ TED โดยงานในลักษณะนี้มีอยู่แทบทั่วโลก จุดประสงค์เพื่อจุดประกายไอเดีย, สร้างแรงบันดาลใจและต่อยอดความคิด โดยธีมหลักของปีนี้คือ A Culture of peace  หรือการสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ ฟังจากชื่อตอนแรกตัวผมเองยังงงๆ เลยครับและกลัวมากด้วยว่า จะมาผิดงานเสียแล้ว งานจัดขึ้นที่ TKPark Central World ครับ
     บุคคลที่ผ่านการคัดเลือกเข้ามามีหลากหลายมากครับ ผมพยายามหา Pattern ในการเลือกแล้ว แต่ก็หาไม่ได้ มีตั้งแต่นักศึกษาจนถึงวัยเกษียน แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งทำให้เกิดอาการเกร็งเล็กน้อยตั้งแต่หน้างานว่า "จะเอาตัวรอดได้มั้ยกู" แต่มีคนเคยบอกไว้ว่า "เวลาเจอคนพูดภาษาอังกฤษใส่ ให้ใจดีสู้เสือ" หลังจากลงทะเบียนเข้างานเสร็จเราก็จะได้สูจิบัตรงานใบเล็กๆ มาที่บอกรายละเอียดคร่าวๆ เกี่ยวกับผู้ที่จะมาพูดให้เราฟังในวันนี้ หลังจากนั้นแล้วก็นั่งรอในห้องจัดงานซึ่งขนาดไม่ใหญ่มากประมาณห้อง lecture เล็กๆ ได้

     งานนี้แบ่งออกเป็น 3 section ครับโดยแต่ละ section จะมีผู้พูดอยู่ 3 คนและแต่ละคนจะได้เวลา 18 นาทีเท่ากันโดยแต่ละ section มีหัวข้อดังนี้ครับ
1)A culture of peace through information communication technology
2)A culture of peace through education
3)A culture of peace through community engagement
     ผมขอชมอย่างนึงว่างานนี้จัดทุกอย่างเปะตามเวลามาก เรียกได้ว่าแทบไม่เสียเวลาแม้แต่นาทีเดียว (ยกเว้น session หลังสุด) ข้างล่างนี้คือโน๊ตที่ผมจดมานะครับแปลผิดแปลถูกบ้างขออภัย

A culture of peace through information communication technology

Justin Brown

- ดรอป ป.เอก เพื่อมาทำองค์กร unexus

- NYC เคยใช้ม้าในการขนส่งมาก่อน แต่มีปัญหาขี้ม้า Town ทำนายว่าในไม่นานจะมีขี้ม้าสูงเท่าภูเขา

- 1912 เกือบทั้งเกาะเปลี่ยนมาใช้รถของ Ford แทนม้า (ม้าตัวสุดท้ายหมดไปในปีนั้น)

- Henry Ford เปลี่ยนโลกโดยใช้รถแทนม้า (จ่ายค่าจ้างพนักงานมากด้วย)

- Vision ไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องอาศัยหลายๆ อย่างเช่น Social Movement energy ฯลฯ

- Viktor E Frankl นักจิตวิทยาชาวออสเตรีย- Man Search for manning

     - ทำการทดลองห่างไกล แล้วตั้งคำถามหลายๆ อย่างเช่น จะหาอาหารมาจากไหน, บุหรี่ ฯลฯ

     - คิดหา life fuel

     - key นักโทษที่เสียศรัทธาในอนาคต จะสร้างปัญหาให้อนาคต

     - id does not really matter what we expect from life...

     - Slum Enterpreneur มี Vision ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง

     - เราทุกคนเป็น slum enterpreneur เพราะเราทุกคนมีแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงเสมอ

     - Full time organization >> มีใครเข้าใจเป้าหมายขององค์กรบ้าง ?

     - Why what we do >> Passion What we do

- 1977 Rob Cambell ต้องการทำงานในบริษัทคอม

     - What you vision for personal computer

     - ต่อมาเกิด Commodore 64 คอมพิวเตอร์เรื่องแรกๆ

     - Personal Computer will change us everything ,Steve Job

- Google gone ahead in IT

- facebook make the world more connected

     - connect accross boundary

     - Potential in digital >> Enormous change

- มองหา Vision of change และหาองค์กรที่ทำคล้ายเราและแชร์ จะก่อให้เกิด momentum create

- Start working together and making the future

//Digital Platform เป็นประเด็นที่พูดถึงเยอะมาก

Mark Bakacs

- Potential for digital media platform

- idea can change the world

- Martin Luther King " I have a dream, a dream can change the world more from meaning of it."

- 3 point

     - the amazing capacity of digital idea

     - ??

     - responsibility to these idea

- มีการอ้างอิงถึงคำพูดที่ Steve Job พูดถึง Stanford U ถึง 15 ล้านครั้ง

- 35% of people using the internet

- คนส่วนใหญ่ดู wall (FB) แล้วสน What they care about

- พูดถึงสติ๊กเกอร์ใน taxi มาถึงเมืองไทยเมื่อวาน เห็นหลายอย่างที่บอกว่าไม่ควรทำใน taxi

- digital media in form of entertainment. We can do it we just have to commit

- Arab Spring

     - เป็นครั้งแรกที่ฝันว่าข้อมูลที่ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นจริง (social media)

     - หลายคนที่มาชุมนุมใช้บรรยายว่าเกิดะไรขึ้นขณะชุมนุม

- Inspire other with your dream for a better future

     - ดูแล้วแชร์ คนที่รับแชร์จากเราก็จะเอาไปแบ่งต่อ spread idea

Johan Janssenn

- Why do we start so much idea out there

- ก่อนหน้านี้อยู่สิงค์โปร์ สิ่งที่ชอบที่สุดคือหลงทางแล้วไปหยุดที่ Art Museum ไปเจอ The art of the brick

- lego visualize idea ออกมาได้ตั้งแต่คนเดียว ถ้ามีหลายคนยิ่งดี

- สิบขวบพ่อซื้อ commodore ให้ ใช้เล่นเกมก่อนเลย แล้วก็ตระหนักว่าสามารถสร้าง program ได้

     - แต่ก่อนมีแค่ 64Kb คอมปัจจุบันมีพลังมากกว่านี้เยอะ

     - What a computer is to me is the most remarkable tool, Steve Job

     - ถ้า a ไป b เดินไปใช้พลังงานมากแล้วเราก็คิดค้นจักรยานที่ทำให้ใช้พลังงานจาก a ไป bน้อยลง

     - Computer fast, but not smart.

     - 1950 low level languanges แม่งช้ามาก ต่อมามี compiler >> C++ เร็วขึ้นเยอะ

     - Interpreted language เร็วมากๆ และใช้ง่ายมาก

          - Python มาก่อน php อีก

- 50% of code is on github.com >> free software >> social network of programmer

- 1990 WWW >> Tim Berners Lee

- Connect people through free software

- Web app >> drupal , wordpress, joomla

     - ทุกอันฟรีหมด ทุกข้อมูลที่ต้องการเปลี่ยนและพัฒนา available

     - ทำไม คนฉลาดหลายคนใช้เวลาหลายปีพัฒนาโปรแกรมแล้วจ่ายออกฟรีๆ

          - purpose and meaning

- 10% of internet use this tools

- ภายใน 40 ปีแรกเปลี่ยนจาก assembler เป็น C++ 

- ต่อมาภายใน 15 ปี Interpreted

- สุดท้ายภายใน 5 ปี สร้าง Joomla

- Singularity >> We think we create linear, but technology singularity improve.

- what next

- potential to connect oppotunity to change

- Programming is the new literacy

     - เราเปลี่ยนหนังสือจากร้อยเป็นพันเล่มในไม่กี่ปี

     - Marc Prensky

- Programming แบบใหม่

     - Embedded >> Lego robot

- Programmer a little bit like wizard แต่ก่อนคนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ 

     - Wow เมิงมาจากไหนวะ

     - Wizard are basically like gods

- The future is here its just not evenly distributed yet.

- Make Good Code 

     - Creator have a idea

     - We all artist We all creator

A culture of peace through education

Alexander Jun

- Sokha : เด็กกัมพูชา โตมามีปัญหามาก

     - ชีวิตเปลี่ยนไปตอนเข้าเมืองหลวง Phanom pen

     - ปัจจุบันเรียนมหาลัยอยู่อเมริกาและหวังจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิด

     - Khmer Rouge genocide include : education personel and intelligencia

          - ค่าเงินต่ำ คอรัปชั่น เด็กกำพร้า ระบบการศึกษาพัง (ปัญหาที่ตามมาหลังปฏิวัติ)

          - ทำยังไงถึงจะเปลี่ยน A culture of conflict >> culture of peace

- Research ผ่านการฟังเรื่องจากชาวบ้าน

- ไปทำวิจัยอยู่ 2 ปี

- ผู้ถูกสัมภาษณ์ส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้า

- ทุกคนพยายามสอนเด็กเหล่านั้น และฝันว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ 

- What did I learn

     - Redefine resilience >> ไม่ได้มองแค่เป็นเครื่องมือทดสอบ, ชีวิตมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น และใส่ใจมากกว่านี้

     - Set High Standard >> ไม่มีใครตั้งเป้าหมายต่ำเกินไป, เข้าถึงได้สำหรับทุกคน

     - Rely on Other >> ชุมชน, ผู้ดูแล, ผู้นำทางศาสนา

     - Bloom When You are Planted >> อย่ารอให้โอกาสมาหา, อย่ามัวแต่เสียใจที่ชีวิตเป็นแบบนี้

     - Never Give Up >> ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน อย่ายอมแพ้

สรกล อดุลยานนท์ (หนุ่มเมืองจันท์)

- ขอพูดเป็นภาษาไทย ฝรั่งคงไม่รู้เรื่อง และผมก็คงไม่รู้เรื่องเช่นกัน

- พูดแบบลัทธิเซน ไม่มีสไลด์

- ทำงานมติชนมา 30 ปี (เป็นนักข่าว)

- เรียนรู้ตั้งแต่วันแรกทีเป็นนักข่าว (จบ มธ)

- อ่านหนังสือพิมพ์เยอะมาก อ่านทุกข่าวยกเว้นข่าวเศรษฐกิจ แต่เริ่มทำงาน ประชาชาติธุรกิจ

- ไม่มีอะไรยากเกินเรียนรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น

- ความมืดไม่ได้น่ากลัว แต่จินตนาการในความมืดมันน่ากลัว 

- ใช้เวลาส่วนหนึงในการทำงานข่าวเรียนรู้ความสำเร็จจากนักธุรกิจ, วิธีคิดของนักการเมือง ฯลฯ

- ถ้าอยากให้ขอบคุณอะไร >> ขอบคุณวิกฤตปี 40 (นักธุรกิจ)

     - ค่าเงินบาทจาก 25 > 50

     - ทำให้รู้ว่า สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้

     - ปี 40 เป็นครั้งแรกที่ ที่ดิน ลดมูลค่า ลงได้

     - เงินสดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราควรพึ่งตัวเองอย่าพึ่งคนอื่น

     - ถ้าธุรกิจดีแบงค์จะยื่นร่มมาให้กันฝนตก แต่ถ้าฝนตกแบงค์จะขอร่มคืน

     - วิกฤตหลังๆ ไม่กระทบเพราะต่อมระวังภัยดีขึ้น

     - ปัญหาคือครูที่ดีที่สุด เพราะปัญหาทำให้เราจำ

     - ปัญหาคือบิดาของนักประดิษฐ์

- คาถาแก้ปัญหา

     - พลเอกชาติชาย "ปัญหาในโลกมีสองอย่างคือ ปัญหาที่แก้ได้กับปัญหาที่แก้ไม่ได้"

     - ให้เริ่มต้นที่ปัญหาแก้ได้ก่อน

     - ความรู้ในโลกมี 2 อย่าง "รู้ว่ารู้อะไรและรู้ว่าไม่รู้อะไร"

     - ถ้าปัญหาที่แก้ได้เราจะวิตกกังวลไปทำไม ถ้าปัญหาไหนที่แก้ไม่ได้เราจะมีประโยชน์อะไรที่ต้องวิตกกังวล

     - หลวงปู่ชา หินก้อนใหญ่ก่อนเล็กผลักไหวมั้ย >> รอกาลเวลากัดกร่อนปัญหาให้เล็กแล้วค่อยผลัก

     - อกหัก วันหนึ่งแข็งแรงขึ้นก็แก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง

- ผมทำงานได้ 2 ปีแม่เสีย

     - ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากจะแก้ไข เพราะแม่อยากไปเที่ยวแต่ทำงานไปเรื่อยๆ

     - เมื่อวันหนึ่งเวลาเรายังหนุ่มสาว เรามีเวลา มีแรง แต่ไม่มีเงิน แต่พอทำงานถึงวันหนึ่ง เราจะมีเงิน แต่ไม่มีเวลาและไม่มีแรง

     - ถ้าวันนึงมาถึงเราอยากมีเวลากับเขามากขึ้น (ปีหน้าเป็นปีแรกที่ตัดสินใจออกจากมติชนเพื่อให้เวลากับคนๆ หนึ่งมากขึ้น) 

- มีปัญหาเมื่อไรมันจะเกิดสิ่งใหม่ๆ มาในโลกนี้อย่างแน่นอน และถ้าแก้ปัญหาขอให้มีกำลังใจในการแก้ปัญหา

- ทุกครั้งที่ทำงานมีเป้าหมายที่ 10 ถ้าได้ 7 อย่าเสียใจ 3 ที่ทำไม่ได้ให้ภูมิใจที่ 7 ดีกว่า

- เราไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเจออะไร แต่สำคัญที่สุดคือข้างๆ เรามีใคร

Seth Leighton

- คนนี้แหละที่ไปสอนหนังสือเด็กชายแดน

- เราสามารถยืนหยัดได้ด้วยสองเท้าเรา แต่เราต้องการมากกว่านั้นคนที่สามารถ Active roll

- What does it mean to be educated

     - Literacy and Numberacy

     - Latin and Shakespeare

     - Critical Thinking?

     - Digital literacy

- หลายประเทศเปลี่ยนไปใช้ ICT study plan

- Enough for prepare student for the world ?

- Global Citizenship

     - เรียนมามาก ?

     - Ability to see yourself connect to the world

     - Ability to enhance the education to the world

- มีนักเรียนน้อยคนเข้าใจความสำคัญของการพัฒนาตนเอง

- What is needed ?

     - ความรู้ทุกอย่างไม่ได้เกิดผ่านการศึกษา

     - Have REM need CIA

     - Retention Engagement Mentoring

     - Curriculum Intentionality* Assessment 

- Why do this

     - โลกปัจจุบัน Mirror โดย Digital world

     - ทำให้เกิด Gap ในการสร้างความเข้าใจระหว่างกัน

A culture of peace through community engagement

Ole Jorgen Edna

- My Thailand Story

- I come to Thailand when 12year work at border refugee camp near Burma.

- Greatest discovery >> The toilet here (ส้วมหลุม) >> Way to sit

- มีคนทั้งหมด 40k ทั่งค่าย 4 x 4 km wide

- Give toothpaste to kid as a gift and they smile really change my heart.

- I don't know what to study and spend my 1 yr at camp to find out and then I know.

- Before went back there are 20 kid in the village theses kids need home 

- Back to Norway, Look through the window and the sun was rise

     - Could not stop thinking about these kid

     - These kids have a name have a smile

- หลังจากกลับมาถึงบ้านป่วยจากแบคทีเรียไป 4 อาทิตย์

- พอหายป่วยขอแม่กลับมา

- ผมต้องการจะให้รัก , ความปลอดภัยกับเด็กพวกนี้

- 2 เดือนต่อมากลับมาไทยเพื่อจะอยู่ต่ออีกปี >> But my heart was lost here forever.

- 2 yr later open 2nd home

- Looking back 6 yr

- A lot of few time a lot of difficult time

- They don't have to think about what they don't

ทิชา ณ นคร

- ตอนเด็กทำลายบ้านกรุณาไม่มีใครพูดถึงความเสียหายที่มีต่อจิตใจเด็กๆ พูดถึงแต่ความเสียหายต่อทรัพย์สิน

- ตลอดเวลาที่ผ่านมา ความสงบไม่ใช่เพราะเชื่อฟัง ความอดทนไม่ใช่เพราะเข้มแข็ง ความร่วมมือไม่ใช่เพราะร่วมใจ แต่ทุกอย่างดำเนินไปตามท่าทีและอำนาจทีมีอยู่ในมือเท้าของผู้คุม

- ปัจจุบันไทยมีเด็กต่ำกว่า 18 ปีอยู่ 19 ล้าน 35k-50k กระทำผิดและถูกจับ

- 66.81% Drop out (ออกจาก รร กลางคัน)

- 90% เป็น ผช

- เป็นผลผลิตจากการศึกษาที่ผิดพลาด (พูดน้อยมาก เพราะผู้ใหญ่ไม่โทษตัวเอง)

- ระบบการศึกษาไทยพยายามบังคับให้เป็นลู่เดียว >> ผู้แพ้มหาศาล (เด็กแต่ละคนแตกต่างกัน)

- สะท้อนปัญหาเชิงระบบและโครงสร้าง แต่แก้ปัญหาแบบปัจเจก ทำให้เกิดระเบิดเวลาทางสังคม

- กรมพินิจดูแล < 18 > เลือกระบบ Out Source มาบริหารหน่วยงาน (ไม่ง่ายสำหรับไทย)

- พรรคการเมืองที่ว่าแข็งแรง พรรคราชการไทยแข็งแรงกว่า

- บ้านกาญจนาภิเษก

- เชิงปัจเจก : คนรุ่นก่อน >> พวกเรา >> พวกเขา (ถ้ามองแบบนี้การจัดการจะดีกว่าเดิม)

- เด็กทุกคนต้องถูกกอบกู้ความรู้สึกว่าตัวเองคือมนุษย์คนหนึ่ง

     - 66.81 Drop out

     - ปมชีวิตพ่อแม่ >> ปมชีวิตตัวเอง

     - เป็นดาวเคราะห์พึ่งแสงจากคนอื่น

     - คิดไม่ได้ ไม่ได้คิด

- ระบบการศึกษาที่ผิดพลาด :: ถูกทำให้โง่ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนโง่

- การศึกษาไทยเราทำให้คนเชื่อง (อย่าเถียงนะ)

- ออกแบบการศึกษาใหม่ : เรียนอาทิตย์ละวัน, 50% ชีวิต, 25% สามัญ, 25% ชีพ

- ไม่รับมรดกทางความคิดทุกประการจากรัฐ

- วิชาชีวิต >> ความคิดเปลี่ยน, พฤติกรรมเปลี่ยน, ชีวิตเปลี่ยน

     - เสื้อผ้าหน้าผมและร่างกายเป็นสิทธิที่เราจะไม่ละเมิด

     - มีเด็กทั้งหมด 200 คน 

     - ใช้หนัง Hotel Rawanda เปรียบเทียบว่าการฆ่าคนเพื่อสัญลักษณ์มัน...

     - เรียน Steve Job ขาดอะไร เขาให้คุณค่ากับอะไร ถึงเป็นผู้รอด

     - คิดวิเคราะห์ข่าวหลบหนี แทนการใช้โซ่ตรวน เป็นสัญลักษณ์ของคุก

     - กระตุ้นความเป็นมนุษย์ >> สำนึกดี ใฝ่ดี

     - โลกนี้ไม่ได้มีคนชั่วมากมาย แต่เพราะโลกนี้คนดียืนเฉยๆ ต่างหาก, Einstein

     - บ่มเพาะเมล็ดพันธ์ความดี ต้องมีแสงและอากาศเพียงพอ

- มีปืนกระสุนหกนัดฆ่าคนได้ 6 คน แต่มีอุดมการทางการศึกษาผิดฆ่าคนได้เป็นแสน

- ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คูณสามารถสร้างวัฒนธรรมแห่งสันติภาพได้

Ryan Libre

- Fall in love with documentary photography

- Glassroot Photojounalism & Visual Literacy

- ก่อนไปทำ Research และค้นพบว่าไม่เหลืออะไรอยู่ที่นั่นเลย

- Found amazing culture there, Closer to Tibetian

- รัฐคฉิน อยู่ทางตอนเหนือของพม่า

- มีทรัพยากรอยู่ที่นั่นเยอะมากทั้งป่าไม้ แก๊สธรรมชาติ และน้ำมัน

- เมื่อมีการสู้รบโลกเริ่มให้ความสนใจ แต่สนใจแค่ข่าวสู้รบ ไม่ได้สนใจอย่างอื่น

- คนที่นั้นส่วนใหญ่ขยันและทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น (มี free help care ที่ รพ ท้องถิ่น)

- Very good public Education system

- หลังจากปฏิวัติรัฐบาลไม่ให้ใช้ภาษาท้องถิ่น ทำให้ปัจจุบันการศึกษา Going down very bad

- I have a degree in peace study : They teach me to make up your own path

- Documentary art

     - Gallery and Workshop for them

- หลังจากนั้น class สร้างงานที่ดีขึ้นมาก

- Assignment : Say something about life they living there

- There are unsafe to be know as photojournalism

- Center อยู่ที่เชียงใหม่

- หลังจากเปิด Gallery ได้ 6 เดือน 17 Best photojounalism มาทำ workshop ที่นั่น

- Chiang Mai documentary art festival (กุมภา)

- My main job is to make my out of the job

- โรงเรียนไม่ได้สอนให้เด็กที่ไปดูภาพที่ gallery บรรยายความรู้สึกตัวเองออกมา เด็กใช้เวลานานมากในการดูภาพๆ นึงและพยายามสื่อความรู้สึกออกมา

     ต้องขออภัยหากอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะรีบจดมากอย่างไรก็ตามงานนี้ได้ทิ้งความคิดหลายอย่างให้ผมกลับไปทำอะไรต่อ สิ่งเดียวที่ทำไม่ได้ตามเป้าจากงานนี้คือการสร้าง Connection ผมแทบไม่ได้คุยกับใครเลยในงานยกเว้นคุณ Ryan Libre ตอนเลิกคนเดียว สำหรับงานนี้บอกได้คำเดียวครับว่าปีหน้าไม่พลาดแน่

ปล.ก่อนจะมางานผมได้เมลถามผู้จัดงานว่าสามารถเอากล้องมาเก็บภาพได้ไหม ได้รับคำตอบมาว่าไม่อนุญาติให้ถ่ายรุปหรือวิดีโอในงาน แต่พอถึงวันงานจริงเห็นคนหยิบ Tablet มาถ่ายเต็มไปหมด ผมเลยไม่เข้าใจว่ากฏเกณฑ์มันอยู่ตรงไหนและทำให้ผมพลาดโอกาสเก็บภาพมาด้วย