2019



ปีนี้ effective ตั้งแต่ 1 มกราคม 2019 เลยเพราะย้ายมาอยู่ทีม Platform Development หรือทีม 🐻 แล้วเป้าหมายมันก็ชัดเจนมากๆ และทุกๆ คนในทีมก็น่ารักมากๆ ด้วย ถึงแม้ว่าครึ่งหลังของปีจะหนักหน่วงด้วยปัญหาสุขภาพและหลายๆ เรื่องแต่ปีนี้ทั้งปีก็เรียกได้ว่าเป็นปีที่ทำงานได้มันส์ที่สุด ตั้งแต่อยู่พรอนโต้มาเลยทีเดียว

Refactoring Club เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป

ถ้าจะมีอะไรที่ภูมิใจที่สุดในปีนี้น่าจะเป็น Refactoring Club ครับ มันเกิดจากบทสนทนาง่ายๆ กับ Under ว่าอยากจะเขียนโค้ดได้ดีขึ้น แล้วบังเอิญน้องๆ ที่นั่งกินข้าวอยู่แถวนั้นได้ยิน มันเลยเกิดเป็น Refactoring Club ขึ้นมาทุกวันพุธเช้า 9 โมงที่ Pronto Tools


เงื่อนไขของ Refactoring Club ไม่มีอะไรมาก ช่วงนั้น Refactoring 2nd Edition เพิ่งออกพอดีเลยใช้เล่มนี้อ้างอิงเลย ให้มาอ่านด้วยกันแล้วก็ discussion กัน หรือถ้าใครมีตัวอย่างอะไรที่น่าสนใจก็เอามาคุยกันได้ ง่ายๆ แค่นี้เลย ซึ่งทำให้ช่วงนึงในทีมตอนรีวิวโค้ดกันนี่สนุกมาก เพราะนั่งหา smell กันเก่งขึ้นมาก (หลังจากอ่านมาสดๆ ) พออ่าน Refactoring 2nd Edition จบด้วยความชินไปแล้วยังไม่อยากเลิกกิจกรรมนี้เลยหาหนังสืออ่านอันต่อ แล้วตกลงเลือก Design Pattern มาอ่านต่อในช่วงครึ่งหลังของปีกัน


แต่ปัญหาก็คือไม่ใช่ทุกคนที่จะรักษา Pace ในการอ่านนั้นได้ตลอด ทำให้บรรยากาศที่เคยเข้มข้นขึ้นก็จางลงเรื่อยๆ ทำให้กว่าจะอ่านเล่มที่สอง Design Pattern จบนี่ใช้เวลานานมาก พออ่านจบถึงจุดนั้นเลยตัดสินใจว่าโอเคในเมื่อรูปแบบเดิมๆ ไม่เวิร์คก็เปลี่ยน มาเป็นแก้โจทย์ Design กันดีกว่าก็กลับมาสนุกได้นิดหน่อย จุดสุดท้ายของ Refactoring Club คือเดือนธันวานี่แหละว่าโอเค ในเมื่อสิ่งที่ทำมันไม่ตรงกับ purpose ที่เกิดขึ้นมาแล้ว การล้มเลิกก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเกินไปนัก แต่ก็ทิ้งท้ายไว้ว่าถ้าใครอยากจัดก็จัดกันเองนะ

Community work

เพจ เขียนงูให้วัวกลัว นั้นปีนี้น่าจะเป็นปีที่โพสตามอารมณ์แล้วมากกว่า routine post เพราะงานหลักมันยุ่งและสนุกมากจนหมดวันก็ไม่เหลือพลังที่จะเขียนอะไรแล้ว (เออมานั่งคิดๆ ดูปี 2019 นี่แทบไม่ได้เขียน Blog เลยนี่หว่า) แต่อัพสเกลเพจมาจัด Meetup PySomTum ได้หนึ่งครั้ง เพราะว่าคิดหัวข้อส่งหัวข้อ PyCon ไม่ทัน พอมาจัด Event เองก็เลยรู้อะไรหลายๆ อย่างมากขึ้นแต่ที่เรียนรู้มากที่สุดคือของแบบนี้ช่วยกันจัดสนุกกว่าเยอะ

นอกจากนี้ ปีนี้น่าจะเป็นอีกปีที่ไปช่วยจัด Event ถี่มาก จนบางครั้งก็คิดว่าเออน่าจะเปลี่ยนชื่อตำแหน่งเป็น Event organizer engineer ไปเลย แต่หลายๆ อย่างก็ pay off มาก และปีนี้น่าจะชัดมากที่สุดตอนพี่เดียร์ชวนมาจัด GDG Cloud Bangkok ด้วยกันนี่แหละ ได้ไปช่วยงานตั้งแต่ DevFest 2019 มาจนถึงงาน StudyJam 2019 #3 ที่บางมด ด้วยซึ่งปัจจุบันมีชื่อเป็น Co-organizer ของ GDG Cloud Bangkok ละและยังสงสัยจนถึงทุกวันนี้ว่าใครเสนอชื่อผมเข้า Google ไปนะ

Build your own library

ปี 2018 เป็นปีที่จดจำได้แม่นว่าอ่านหนังสือน้อยมาก ปีนี้ถ้าเล่มไหนอยากอ่าน เล่มไหนใครบอกว่าดี คือจัดแบบไม่รอเลย แล้วพอรู้ว่ามันลดหย่อนภาษีได้ด้วย มันกลายเป็นกิจวัตรไปเลยว่า พอเดินออกจาก WE Fitness ต้องแวะ B2S ทุกครั้ง เพราะฉะนั้นหนังสือใหม่เพิ่งวางแผงจะเจอเร็วมาก รวมถึงทุกวันเสาร์น่าจะเดือนละครั้งจะได้ไป Emquartier อยู่ละก็จะแวะไป Kino แบบไม่ลังเลเลย


ในรูปอันนี้แค่ส่วนนึงนะ จริงๆ มีอีกหลายเล่มเลยที่ได้จาก Omongo Bookstore ด้วย B2S ด้วย ebook อีก ถ้าจะให้เลือกหนังสือที่ชอบที่สุดที่อ่านในปีนี้เลือกเล่มเดียวไม่ได้จริงๆ แต่ 3 เล่มเลยคือ The Five Dysfunctions of a Team, Refactoring 2nd Edition และ The Making of a manager เป็นสามเล่มที่ส่งผลต่อแนวคิดหลายๆ อย่างมาก
อีกเรื่องที่เจ๋งคือปีนี้ไปเห็นน้องเฟิร์ส Thoughtwork โดนชวนไปงาน Booksplash ใน Facebook แล้วเห็นว่าเป็นไอเดียที่ดี เลยยืมไอเดียมาจัดเองที่พรอนโต้เลย แล้ววันนั้นถึงจะมีไม่กี่คนแต่ตอนนั่งฟังแต่ละคนเล่าเรื่องที่แยกย้ายไปอ่านหนังสือด้วยกัน มามันทำให้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้วได้หนังสือใหม่ๆ ไว้ใน wishlist อีกหลายเล่มเลย

Other remarkable

  • ปีนี้ยังไปเที่ยวเชียงใหม่กับตั๊กตามธรรมเนียมที่เพิ่งสร้างเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไปรู้จักช้างมากขึ้น นอกจากเชียงใหม่ปีนี้ยังได้ไป 🇯🇵ครั้งแรก ไป 🇸🇬ครั้งแรก ไปบ้าน zkan ครั้งแรกและปิดท้ายด้วยหัวหินแบบโคตรหนาวกับชาวคณะ expo
  • ปีนี้ทำให้ได้รู้จักช่วงชีวิตที่ไปงานแต่งงานเยอะละ และคิดว่าน่าจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
  • ปีนี้มีช่วงนึงที่อยู่ดีๆ ไปติดเชื้ออะไรมาก็ไม่รู้แล้วมือกับเท้าลอกหมดเลย ไปหาหมอก็บอกว่าเกิดได้หลายสาเหตุ หลังจากทายาที่หมอให้มาเกือบเดือนก็ลอกคราบเกือบหมดละ
  • ปีนี้มีช่วงที่ลำบากที่สุดช่วงนึงคือช่วงที่ตั๊กล้มกระดูกเท้าร้าวแล้วทำอะไรเองไม่ค่อยได้ต้องดูแลตลอดเวลา ช่วงนั้นทำให้ตั๊กเสียใจบ่อยมาก แต่ก็ได้เรียนรู้อย่างนึงว่าพอมันผ่านช่วงที่ลำบากมาด้วยกันนี่ก็แน่ใจยิ่งกว่าเดิมอีกแล้วแหละว่าคนนี้แหละที่ใช่
  • ปีนี้มีใบขับขี่ซักทีหลังจากเป็นคนเถื่อนมานาน ได้บินเดี่ยวขับไปกลับนครนายกกับเจอโคตรรถติดที่บางนาทำให้รู้ว่าอยู่ตามแนว BTS นี่แหละดีละ อ่อแล้ว BTS ปากซอยหน้าบ้านเปิดแล้วทำให้เวลาชีวิตดีขึ้นโคตรๆ หลังจากทนมาหนึ่งปีกว่าๆ
  • ปีนี้ย้ายค่ายแล้วจาก True ไป AIS เพราะอยากจะจัดการบิล Internet / โทรศัพท์ ในแอพเดียว แต่กว่าจะย้ายได้นี่มหากาพย์มากๆ จนพนักงาน AIS ที่เซนลาดจำหน้าได้เลย
  • ปีนี้นอกจากย้ายค่ายยังย้ายมือถือด้วยหลังจากใช้ 6s มานานหลายปี ตอนนี้ย้ายมา Huawei P30 Pro แล้ว
  • ปีนี้แทบไม่ได้จัด Cool bar เลยด้วยภาระหลายๆ แต่ปาร์ตี้ช่วงท้ายปีที่พรอนโต้นี่เมาหนักมากทุกงาน รวมถึงได้เป็นแชมป์ Flip cup กับทีม Fullstack ที่มีชาย พี่บอส น้องนุช ด้วย
  • ปีนี้ตั้งเป้าว่าจะสอบ Google Cloud: Professional Cloud Developer เลยตั้งใจเรียน Coursera คอร์ส Developing Applications with Google Cloud Platform Specialization มากแต่กว่าจะจบก็ค้างมาจนเกือบสิ้นปี ปีหน้าสนามสอบเจอกัน
  • ปีนี้โดนชวนเข้า Big/Little Program แล้วได้ Little ของตัวเองแล้ว ครั้งแรกที่คุยกับ Little จำได้ว่า awkward มากเพราะยังไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้าอยู่ดี แต่พอถึงจุดนี้ก็เป็นเพื่อนไปละ ข้อดีของ Big/Little คือบางครั้งมันทำให้เรากลับมาทบทวนตัวเองด้วยว่า สิ่งที่เราคุยกับ Little ไปเราเชื่ออย่างนั้นจริงๆ รึเปล่า แล้วทำให้เรียนรู้อย่างนึงว่าแค่หกเดือนคนเราก็เปลี่ยนไปได้เยอะมาก
  • ในที่สุดปีนี้ก็เป็นปีที่หา System ในการใช้ชีวิตได้แบบดีมากๆ ทำอยู่บน Trello ซึ่งน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานปีนี้มันสนุกมากด้วยเพราะเราแทบไม่ลืมเป้าหมายที่เราตั้งใจทำไว้เลย ส่วนของปีหน้าเดี๋ยวจะลองใช้ Passion Planner ดูว่าเวิร์คมั้ย
  • สิ่งที่ชอบที่สุดของปีนี้อีกอย่างคือได้สัมภาษณ์พี่โจ้แล้วเขียน Paper: The Past, Present and Future of Pronto Infrastructure เป็น Paper ที่ใช้เวลาเขียนนานมาก (สัมภาษณ์ก็นาน) แต่ก็คุ้มมาก เพราะทำให้หลายๆ คนเห็นภาพมากขึ้นว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน Pronto Infra ต้องผ่านอะไรมาบ้าง แถมได้ไปเล่าเรื่องนี้นิดหน่อยต่อหน้าคนทั้งบริษัทอีก

Comments