1st Year at Proteus: From Novice to Journeyman


       วันนี้เมื่อหนึ่งปีที่แล้วเป็นวันที่ผมเริ่มทำงานที่โปรเตอุสวันแรกครับ ในโอกาสอันดีเช่นนี้ผมคิดว่าน่าจะเขียนอะไรซักหน่อยเกี่ยวกับหนึ่งปีที่ผ่านมาในชีวิตที่เกิดขึ้นที่นี่ แปลกนะผมคิดว่าต้องเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้มาซักพักละ แต่พอถึงเวลาจริงดันมาเขียนเอาวันสุดท้าย แต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยมันก็เป็นความรู้สึกของวันนี้จริงๆ 
       
       สมัยเรียนผมเคยวาดภาพตอนที่ต้องจบมาทำงานไว้ว่าคงได้ทำงาน Office ซักแห่งในกรุงเทพฯ ไม่สุขุมวิทก็สีลม ใส่เสื้อเชิต กางเกงสแล็ค รองเท้าหนัง มีป้ายห้อยประจำตัว มีโต๊ะทำงานมีชื่อแปะ ต้องตื่นแต่เช้าฝ่ารถติด ไม่ก็เบียดกับผู้คนที่อยู่ในรถไฟฟ้า ตอนเที่ยงก็ต้องไปแย่งกันจองที่กินข้าว ตกเย็นก็ต้องมาเจอสภาพเหมือนตอนขามาแล้วหมดแรงไปในแต่ละวัน วนอยู่อย่างนี้ไปจนสุดสัปดาห์
       ผมเคยเจอชีวิตแบบนั้นแล้วครับ สมัยฝึกงานตอนอยู่ปี 3 ชีวิตแบบนั้นมันก็ไม่ได้แย่ไปเลยซะทีเดียวนะ อย่างน้อยในช่วงเวลานั้นผมได้เจอช่วงเวลาดีๆ เจอคนดีๆ หลายคน เป็นช่่วงเวลาที่กลับไปนึกถึงทีไรก็ยังคงทำให้ยิ้มได้เสมอ พอมาทำงานจริงไม่เคยมีภาพพวกนั้นเกิดขึ้นเลยยกเว้น เจอคนดีๆ หลายคนเหมือนกัน
       
       ผมรู้จักโปรเตอุสครั้งแรกตอนไปงาน Agile Thailand 2013 ตอนนั้นยังเป็นเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราว Agile คืออะไรไม่รู้จัก TDD คืออะไรไม่เคยได้ยิน เดินเข้า Session ชื่อ Hyper Productivity ไปแบบงงๆ สิ่งแรกๆ ที่ได้ยินเกี่ยวกับบริษัทนี้อารมณ์ประมาณว่า

ที่นี่สิ่งที่เราจะมอบให้คุณคือ ดาบและโล่ กับเพื่อนร่วมงานเลเวล 99 หนึ่งคน แล้วเราจะไปปราบบอสด้วยกัน

       อาจจะไม่อย่างนี้เป๊ะ แต่ประโยคนี้แหละที่ทำให้ผมสนใจ พร้อมกับสายตาที่จ้องภาพอัศวินกำลังยืนประจันหน้ากับไฮดร้าตัวใหญ่ กลับจากงานวันนั้น ถ้าจะให้บรรยายความรู้สึกก็คงไม่ต่างกับนีโอที่ตื่นมาเจอความจริงว่าโลกมนุษย์ที่เราอยู่มันไม่ใช่อย่างที่เราเห็นมาตลอด โลกของ Software Development มันต่างจากที่ผมจินตนาการตลอดเช่นกัน
       วาร์ปมาเกือบหนึ่งปี วันแรกที่ผมมาที่โปรเตอุสครั้งแรกเพื่อสัมภาษณ์นั้น... ประตูบริษัทล็อกครับ ฮ่าๆ แต่ที่รู้ว่าเป็นที่นี่เพราะโพสอิทแปะเต็มหลังประตูไปหมด จำไม่ได้แล้วว่าต้องรอนานแค่ไหนกว่าจะได้เข้ามา แต่ตอนนั่งรอสัมภาษณ์นี่ตื่นเต้นมาก ถึงจะไม่ใช่ที่แรกที่ไปสัมภาษณ์ก็เถอะ แล้วพอถึงเวลาสัมภาษณ์นี่ใจนี่หล่นหายไปตั้งแต่นั่งรถตู้ออกจากลาดกระบังละ บริษัทอะไรคนสัมภาษณ์นั่งเต็มห้องไม่ช็อคก็ไม่รู้จะพูดไงละ สิ่งที่ประทับใจที่สุดตอนสัมภาษณ์คือ คำตอบที่เบนตอบตอนที่ผมถามว่า "บริษัทนี้ใช้อไจล์ใช่มั้ยครับ" ทำให้รู้ว่าผมมาถูกที่ละ (ถึงแม้ตอนนั้นจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าได้หรือไม่ได้งานนี้ก็เถอะ) แล้วเวลาที่เหลือตลอดบ่ายวันนั้นแทนที่จะเดินทางกลับเลย กลับได้อยู่เดินดูทั่วบริษัทว่าที่นี่ทำงานกันยังไง ยังกะนักศึกษามาทัศนศึกษาดูงานอีกซักพักใหญ่เลย หลังจากนั้นไม่กี่วันผมก็รู้ผลครับ



       นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันแรกที่ผมมาทำงานที่นี่ครับ แต่มันยังไม่จบแค่นั้นคือ หลังจากที่ได้คอมแล้วเซ็ตอัพเครื่องเสร็จแล้ว งานแรกที่ผมได้ทำที่นี่ก็คือ deployment เครื่อง demo ครับ ห่ะ !! โชคดีที่ตอนนั้นมีฮีโร่เลเวล 99 ช่วยแพร์ไปด้วยในวันแรก ทำให้ผ่านไปได้โดยไม่ติดขัดนัก หลังจากนั้นในวันครบรอบทำงานหนึ่งเดือนผมก็ deploy แบบบินเดี่ยวได้แล้วครับ ตอนตีหนึ่งด้วยนะ
       ในช่วงแรกๆ ที่ทำงานนั้นผมแทบจะไม่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองนั้นเปลี่ยนแปลงไปซักเท่าไร ผมยังนอนดึกเหมือนเดิม ตื่นสายๆ เหมือนเดิม เขียน PHP เหมือนเดิม นอนอยู่หอในเหมือนเดิม ซึ่งก็นับว่าดีไม่น้อยเพราะผมแทบไม่รู้สึกว่าเห้ยนี่ผมทำงานแล้วนะ ไม่ได้เรียนหนังสืออีกแล้ว ถ้าตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ จะมีปัญหาอะไรที่จำได้อย่างเดียวคือ ผมจำเลขการ์ดที่ตัวเองทำไม่ค่อยได้เลยเพราะ Jira มันพางงมาก
       ผ่านไปสามเดือนโดยประมาณโปรเจ็คแรกก็จบ ช่วงนี้เป็นช่วงที่รู้สึกว่าชีวิตเปลี่ยนจริงๆ ตั้งแต่อยู่ที่โปรเตอุสนี่แหละ ต้องย้ายทีม ย้ายโต๊ะ ย้ายมาทำ Django, Angular แถมยังต้องทำ Docker ด้วย แถมโปรเจ็คทีมนี้ก็ใหญ่ยักษ์จนแทบจะล้มทับให้แบนได้ งานแรกที่ได้ทำในโปรเจ็คนี้คือเขียนเทสโมเดลตัวนึงซึ่งตอนนั้น ฮ่าๆ ทำไม่ได้ครับ แต่งานหลักจริงๆ ตอนนั้นคือช่วยเร่งทำ Script ครอบ Docker ซึ่งเอาจริงๆ แทบจะเรียกได้ว่าบินเดี่ยวมากช่วง 2 อาทิตย์แรก ไม่เคยใช้ Docker จริงจัง โครงสร้างโปรเจ็คก็ไม่รู้ เป็นช่วงที่ตาเหลือกมากและสามารถนิยามได้ว่าเป็น "ซีเนียร์ฉับพลัน" ก็ไม่ปาน แต่ความเจ๋งของโปรเตอุสคือ เรามีฮีโร่เลเวล 99 อยู่แทบทุกที่ที่สามารถตอบคำถามได้ เพราะฉะนั้นถ้าจะเรียกว่าลุยเดี่ยวก็ไม่ถูกต้องซะทีเดียว
       หลังจาก Script ตัวนั้นเสร็จวิถีชีวิตช่วงนั้นก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ตื่นเต้นอีก ช่วงนี้คือเขียน Django เต็มตัวมากมี Angular มาปนแบบนิดๆ หน่อยๆ ช่วงนี้เรียกได้ว่าเปลี่ยนแนวคิดการเขียนโปรแกรมไประดับนึงเลยเพราะเขียน PHP มาตลอด แถมช่วงนี้เป็นช่วงแรกๆ ที่เจอดุเรื่องโค้ดที่เขียนด้วย แต่ถึงจะไม่ค่อยตื่นเต้นแต่ช่วงนี้แถมจะเรียกได้ว่าอัพเลเวลรัวๆ มาก เพียงแต่ผมไม่ค่อยรู้สึกเท่าไรเพราะตอนนั้นไปโฟกัสเรื่อง Astronautical หมดในวันหยุด

       เคยมีช่วงเวลาที่เบื่อ ซึ่งก็เริ่มขึ้นราวๆ ย่อหน้าก่อนหน้านี้ เรื่องเบื่อเต็มๆ ไปอ่านได้ที่ 2014 ช่วงเดือนตุลาคม ครับ แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ ไม่ใช่ผมคนเดียวที่เบื่อครับ ฮ่าๆ ผ่านไปได้ซักเดือนนึงเพื่อนบางคนที่จบมาด้วยกัน ก็เริ่มพูดถึงอาการเบื่อพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย เพราะฉะนั้นผมจึงสรุปว่ามันอาจจะเป็นโรคติดต่อที่มาตามเวลาก็เป็นได้ วิธีแก้เบื่อไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวเพราะผมก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเขาแก้เบื่อกันยังไง แต่สำหรับผมก็คือหา Goal ให้ตัวเองตามคำแนะนำของพี่ฮีโร่คนนึงในบริษัท แล้วผมว่าผมก็หา Goal นั้นเจอแล้วแหละ (ตั้งแต่เริ่มเข้าห้องเรียน C++ เนี่ย)
       จำการ์ดที่ผมบอกว่าทำไม่ได้ข้างบนได้มั้ยครับ เหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นประมาณช่วงปลายเดือนมกราคม เป็นการ์ดล่าบอสที่เรียกได้ว่าต้องขอความช่วยเหลือจากฮีโร่หลายคน แต่ความเจ๋งของคนที่โปรเตอุสคือ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าเวลาขอความช่วยเหลือแล้วถูกปฏิเสธเลย
       ความเจ๋งของคนที่โปรเตอุส ไม่ได้มีแค่นั้นนะครับจริงๆ ให้พูดทั้งวันก็อาจจะไม่หมด สิ่งที่เราจะได้ยินบ่อยๆ คือ การพูดถึงคนที่เคยอยู่มาก่อน เพราะเอาเข้าจริงตอนผมเข้ามาบริษัทนี้ก็เปิดมาหลายปีน่าจะ 5 ปีแล้วมั้ง แต่คนในปัจจุบันก็ใช่ว่าจะว่างเปล่านะครับ ยิ่งรู้จัก ยิ่งได้รู้ว่า แต่ละคนนี้มีความสนใจที่เฉพาะทางมาก (ไม่ใช่แบบมิสเตอร์เกรย์นะครับ) แล้วเวลาที่นั่งล้อมวงคุยกันตอนค่ำๆ ในหลายๆ คืนตลอดปีที่ผ่านมามันทำให้ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ หลายอย่างเหมือนกันนะ ตั้งแต่ Programming, วัฒนธรรมเพลง, ประวัติศาสตร์, เรียนออนไลน์, เบียร์ เรื่อยไปถึงยีนส์และอีกหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว

       ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาผมยังคงและรู้สึกว่าตัวเองเป็น Developer ที่กากสุดในบริษัทเลยนะ อันที่จริงถ้าจะนับจากที่ทำงานใหม่ๆ ผมก็เก็บเลเวลขึ้นมาเยอะนะ เยอะมากเลยแหละ เพียงแต่ว่าฮีโร่หลายคนในบริษัทเขาก็เก็บเลเวลเหมือนกัน และมันก็สนุกไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เก็บเวลไปด้วยกัน
       อีกสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้คือ ที่นี่สนับสนุนให้เราทำในสิ่งที่เราอยากทำ ถ้ามีโอกาสนะยกตัวอย่างเช่น ผมเข้ามาที่นี่เพราะอยากทำ Agile มาก แล้วมันไม่ใช่แค่ทำนะสิ แต่อยู่กับมันทุกวัน แล้วมีโอกาสไปเป็น Facilitator ทำ Retrospective สอง สามครั้ง เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ได้คำแนะนำดีๆ หลายอย่างรวมถึงได้ลองท่าใหม่ๆ ด้วย
       จบไม่ลงแหะ หนึ่งปีที่ผ่านมามีอะไรหลายๆ อย่างเกิดขึ้นเยอะมาก ให้เล่าทั้งวันก็เล่าไม่หมด ขอบคุณชาวโปรเตอุส แก๊งค์ทุกคนที่มอบประสบการณ์ดีๆ ให้ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมยังคงรู้สึกว่าโชคดีกว่าหลายคนที่ไม่ค่อยมีปัญหาหลายๆ อย่างตอนทำงาน (จริงก็โชคดีมาตั้งแต่สมัยฝึกงานแล้วแหละ) ขอบคุณที่บ้านที่เข้าใจเวลาทำงานอันแปลกประหลาดเช่นนี้ถึงแม้ตอนทำงานใหม่ๆ พ่อจะสงสัยทุกครั้งก็เถอะว่าทำไมไม่ไปทำงานวันศุกร์ ขอบคุณคิ หัวหน้ากิลด์ที่สอนอะไรหลายอย่างมากให้เด็กตาดำๆ ที่เอาสมองไปโยนทิ้งไว้ที่อื่นทุกครั้งที่นั่งแพร์ด้วยกัน และสุดท้ายขอบคุณพี่ปอมที่่แนะนำให้ส่ง resume มาอีกรอบ เพราะถ้าวันนั้นไม่ตัดสินใจทักพี่ปอมไป วันนี้อาจจะไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้


ปล.ปีนี้อาจจะเป็น Godzilla เวอร์ชั่นปี 2014 ที่ตุ้ยนุ้ยมาก ปีหน้าผมจะเป็น Godzilla เวอร์ชั่นปี 98 ที่ผอมเพรียวให้ได้ แฮร่

Comments