ไปดู Buriram United แบบเซาะกราวๆ


       ผมมานั่งย้อนดู Blog ตัวเองวันนี้ เพิ่งนึกได้ว่าผมไม่ได้เขียนอะไรจริงๆ จังๆ มานานมาก ถ้าไม่นับไดอารี่ฝึกงานที่ต้องเขียนทุกวันนี้ก็แทบไม่ได้แตะงานเขียนอะไรเลย ไหนๆ ก็เข้ามาแล้วก็เขียนสักเรื่องก่อนจะปล่อยให้ร้างนานอีก (แต่ก็คงอีกไม่นานเพราะประสบการณ์ตอนฝึกงานเยอะมากครับ)
       วันอาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปดูฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกคู่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ที่สนาม New I-Mobile Stadium หรือที่เรียกติดปากกันว่า Thunder Castle เป็นความตั้งใจตั้งแต่ผมแอบกลับมาบ้านที่บุรีรัมย์ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ว่าจะต้องมาดูให้ได้และก็ได้อภินันทนาการบัตร Media Press จากคนรู้จักมาก็เลยได้ไปรายงานสดผ่าน Instagram + Facebook ตอนแข่งกันเลย

GAME
       ต้องสารภาพตามตรงว่าผมแทบไม่ได้ติดตามฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกเลย อาจจะดูแว็บๆ บ้างแต่ไม่ถึงกับติดตามเลยไม่รู้ว่าทีมอะไร ฝีมือเป็นอย่างไร แต้มต่อดีแค่ไหน ไม่รู้ครับไปแบบไม่รู้อะไรเลย รู้แต่ว่ามาเชียร์บุรีรัมย์แค่นั้น พอผมไปถึงได้ยินแต่คำว่า "สามแต้ม" ซึ่งก็เข้าใจว่าทีมบุรีรัมย์ต้องการสามแต้มไปทำอะไรสักอย่างและทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ดยอมเลื่อนมาแข่งสัปดาห์นี้ให้ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปแข่ง AFC Championship League ผมไม่รู้ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมั้ย แต่ผมว่ามันสปอร์ตมาก
       ช่วงเริ่มเกมสองทีมยังเล่นกันไม่เร่งเกมส์เท่าไร จนกระทั่งนาทีที่ 22 ทางบุรีรัมย์ได้เตะมุม แล้วก็เป็น Carmelo กองกลางชาวสเปนโหม่งทำประตูไปได้อย่างสวยงาม ไม่กี่นาทีถัดมาทางบุรีรัมย์ก็ได้ประตูอีกจากความผิดพลาดของมือประตูฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งออกมารับบอลแต่พลาด ทำให้ทางฝ่ายบุรีรัมย์เข้าไปซ้ำเป็นประตูอย่างง่ายดาย จบครึ่งแรกที่สกอร์ 2-0 
       ครึ่งหลังทางอาร์มี่ฮึดสู้ขึ้นมากมีโอกาสทำประตูได้หลายครั้ง มีจังหวะนึงที่มีโอกาสพาบอลไปหน้าประตูแล้วพยายามทำประตูแต่ผู้เล่นฝั่งบุรีรัมย์สามารถกันไว้ได้ถึง 3 ครั้ง เรียกได้ว่าเอาตัวเข้าแลกเลยทีเดียว หลังจากนั้นทางบุรีรัมย์เป็นฝ่ายบุกบ้างแล้วก็ทำประตูไปได้อีก 1 ประตูในครึ่งหลังจนจบเกมส์ที่สกอร์ 3-0
STADIUM
       ไหนๆ ก็ได้โอกาสไปดูแล้วก็สำรวจสนามไปในตัวเลย สนาม New I-Mobile Stadium ที่สร้างขึ้นมาใหม่นี้รองรับผู้แฟนบอลได้ถึง 24,000 คน ในนัดนี้มีการสรุปตัวเลขออกมาว่ามีผู้เข้าชมถึง 21,600 คนแต่จากการประมาณด้วยสายตาก็คือเต็มสนาม แทบไม่มีที่ว่าง ระบบการจำหน่ายตั๋วจากการสังเกตุทางด้านหน้า มีแถวเพียงแค่ 2 แถวหลักๆ ต่อยาวเกือบร้อยคน ซึ่งผมคิดว่าทางสโมสรน่าจะจัดการได้ดีกว่านี้ แต่ก็ถือได้ว่าไม่แย่เกินไป เพราะแฟนบอลก็เข้ามานั่งกันเต็มสนามภายในไม่ถึง 20 นาที เมื่อเข้ามาข้างในแล้วทางสนามไม่อนุญาติให้นำน้ำดื่มเข้าไป ผมก็เพิ่งรู้เลยต้องวางไว้ตรงทางเข้าก่อนขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ชั้นของผู้สื่อข่าวจะอยู่ถัดจากคนดูขึ้นไปก่อนถึงชั้น VIP เรียกได้ว่ามองเห็นทั้งสนาม ไม่ต้องยืดตัวมองครับ
     นอกจากนี้แล้วยังมีจุดขายของที่ระลึกของทีมซึ่งก็คงไม่พ้นเสื้อรวมถึงของอื่นๆ อยู่ติดกับทางเข้าหลักสนามครับ ร้านออกจะเล็กไปหน่อยแต่ระบบจัดการก็ถือว่าดี ไม่มีการแซงคิว และเสื้อที่มีทุกไซส์ตั้งแต่ S ยัน 3XL เลยครับ ทางด้านหน้าของสนามก็จะมีลานกิจกรรมซึ่งตอนซื้อตั๋วก็จะกลายเป็นที่ยืนรอไป เลยไปอีกนิดนึงก็มีเวทีคอนเสิร์ตขนาดเล็ก อันนี้ผมไม่ได้เข้าไปดูได้แต่สังเกตุจากไกลๆ แต่ก็เห็นแฟนบอลไปอยู่ที่จุดนั้นเยอะเหมือนกันตอนแข่งเสร็จ
       ข้อเสียอย่างเดียวคือระบบจราจร เนื่องจากทางมาสนามเป็นเส้นออกนอกเมืองแล้ว ถึงจะเป็นถนน 4 เลนแต่ก็ถือว่าแน่นเพราะเป็นเส้นเดียวมาจากตัวเมือง ทำให้ต้องใช้เวลากว่า 30 นาทีกว่าจะออกจากเขตสนามได้ รวมถึงที่จอดรถที่ผมเข้าใจว่าไม่เพียงพอทำให้แฟนบอลบางส่วนต้องจอดรถอยู่ข้างทางทำให้รถติดยิ่งขึ้นไปอีก

TECHNOLOGY
       ไหนๆ ก็ได้บัตร Media Press มาแล้วผมก็สอบถามก่อนเลยว่าทางสนามมีบริการ WiFi ให้รึเปล่า ซึ่งทางผู้ดูแลก็ได้ให้คูปองมา 1 ใบพร้อมกับบอกรหัสผ่านในการเข้าตัว Access Point มาก่อนซึ่งมีการเปิด WPA ไว้ป้องกันหนึ่งชั้น พอเข้ามาแล้วจะเป็นระบบเข้าใจว่าเป็น Radius Authentication ลักษณะนึงพอทำการใส่ Username/Password ที่ได้รับมาแล้วนั้นก็สามารถใช้งานได้เลย โดย User จะมีสิทธิในการใช้งานได้ 6 ชม. ผมได้ทำการทดลองเชื่อมต่อโทรศัพท์ Android LG Optimus One ของผมเองก็ไม่พบปัญหาอะไร และโชคดีที่มีพี่ๆ สื่อมวลชนข้างๆ เอาโน๊ตบุ๊คกับ iPhone 5 มาให้ตั้งค่าให้ ซึ่งก็พบว่าไม่มีปัญหาการใช้งานแต่อย่างใด ตัว Access Point เองทางสนามก็วางไว้ได้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสนามตั้งแต่บนอัฒจันทร์ จนออกนอกสนามมาแล้วสักระยะก็ครอบคลุมทั้งหมด และยังไม่พบปัญหาสัญญาณหายในขณะใช้งานแต่อย่างใด ความเร็วของเครือข่ายเนื่องจากผมทดลองในโทรศัพท์จึงไม่สามารถบอกได้ว่าความเร็วพอใช้งานกับคอมพิวเตอร์นั้นจะเป็นอย่างไร แต่กับสมาร์ทโฟนทั่วไปแล้วถือว่าใช้งานได้ดีทีเดียว สามารถอัพโหลดรูปลง Instagram ได้โดยไม่ต้องรอนานเกินไป รวมถึงยังมีบริการสาย LAN ให้บนชั้นสื่อมวลชนด้วย แต่เข้าใจว่าส่วนใหญ่ก็ใช้ WiFi กันหมดแล้ว

TEAM
       ถ้าพูดถึงทีมบุรีรัมย์แล้วนอกจากนักเตะ ที่เห็นจะไม่พูดไม่ได้ก็คงจะเป็นทางกองเชียร์ GU12 กับเซาะกราวซึ่งสร้างสีสันได้ตลอดเกมส์โดย ถ้าเป็นฝั่งบุรีรัมย์ครองบอลนั้นจะเป็นการร้องเพลงที่แต่งใหม่ของสโมสรซะส่วนใหญ่ แต่ถ้าเป็นฝั่งตรงข้ามครองบอลกองเชียร์ GU12 ก็จะทำการเป่าผมไม่แน่ใจว่าอะไร แต่เสียงจะหึ่งเหมือนมี ตัวต่อมาบินอยู่ข้างหู ดังก้องทั้งสนามเรียกได้ว่าโจมตีคู่แข่งได้เป็นอย่างดี 
       นอกจากนี้แล้วพอทางฝั่งบุรีรัมย์ได้ประตูก็จะมีการนำธงมาแผ่ทางฝั่งกองเชียร์เขียนว่า GU12 ซึ่งสร้างบรรยากาศได้ดีทีเดียว ทางกองเชียร์เซาะกราวผมไม่ทราบอะไรมาก แต่จากคำบอกเล่าเห็นว่าไว้คอยกดดันฝั่งตรงข้าม เพราะแถวกองเชียร์อยู่ติดกับด้านหลังของมือประตูฝั่งตรงข้ามเลยทีเดียว แล้วพอแข่งเสร็จทางผู้เล่นยังมีการไปยืนเรียงแถวเข้าใจว่าเป็นการขอบคุณกองเชียร์ GU12 ด้วยเป็นภาพที่ประทับใจมากครับ

     โดยรวมถือว่าคุ้มมากครับกับการมาดูบอลในครั้งนี้ ดูในทีวียังไงบรรยากาศก็ไม่เท่ากับดูสด ถึงจะดูภาพช้าไม่ได้ แต่การได้เชียร์ไปพร้อมกับคนหลักหมื่นก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ถ้ามีโอกาสคราวหน้าก็คงมาดูอีก แต่คงไม่รายงานสดเหมือนคราวนี้ (ซึ่งอาจทำให้หลายๆ คนใน Instagram กับ Facebook รำคาญบ้าง) ก็ถ้าใครผ่านมา Blog นี่แล้วมีโอกาสได้มาเยือนบุรีรัมย์สุดสัปดาห์ก็อย่าลืมแวะมาที่ Thunder Castle นะครับ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลย


Comments