ครอบครัว



     สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมขอบอกได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต มันเป็นช่วงเวลาที่ผมได้กลับมาทบทวนว่าเราทำไปเพื่ออะไรอีกครั้ง ซึ่งหลายๆครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมาผมลืมมันไปแล้ว เริ่มด้วยวันเสาร์ที่ผมมีนัดไปเลี้ยงสายรหัส ซึ่งนัดกันมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่ภาระก็ไม่หมดเพราะในคืนก่อนหน้าผมถูกแจ้งว่าต้องไปช่วยงานในคณะเวลาเดียวกับที่ผมต้องไปเลี้ยงสาย ผมตอบปฏิเสธ วินาทีนั้นผมคิดได้ สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ผลลัพธ์ของงาน แต่คือครอบครัว ผมบอกได้เลยว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ไม่ว่างานนั้นจะสำคัญแค่ไหน ครอบครัวต้องมาก่อน ถึงแม้ว่าสายรหัสผมจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ แต่เราหรืออย่างน้อยก็ผมรู้สึกว่าเราเป็นครอบครัวมีพี่ มีน้อง และช่วงเวลาที่เราหลุดพ้นจากภาระและอยู่ด้วยกันมันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมาก
พี่ชายกับน้องสาว
     ผมได้ดูแลน้อง ได้รู้สึกถึงคำว่าพี่และผมก็ไม่ปฏิเสธว่าในเวลาเดียวกัน ผมก็รู้สึกว่าผมเป็นน้อง รู้สึกว่ามีพี่คอยดูแล ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ไปด้วยกันถึงแม้ว่าตอนเจอกันตอนแรกๆ จะไม่ค่อยกล้าพูดอะไรเท่าไร แต่พอผ่านไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเราทั้งหมดก็กลับมาสนิทและอาจจะสนิทยิ่งกว่าเดิม และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ผมบอกได้เลยว่าผมจะจดจำทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ไปอีกนาน
พี่ชายและพี่สาว
     วันต่อมาผมมีโอกาสได้ไปทำบุญปีใหม่กับกลุ่มคนที่ผมแทบจะไม่รู้จัก แม้ในความเป็นจริงแล้วจะพอรู้จักอยู่บ้างก็เถอะ เธอลากผมไปครับและอย่างที่ผมบอกว่าครอบครัวสำคัญที่สุด ไม่ว่าผมจะมีงานเท่าไร ไม่ว่างานนั้นจะเสร็จหรือไม่ หากสละได้ ผมก็เลือกที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอให้มากที่สุด ถึงแม้ตอนเช้าไปจะเขินๆอยู่บ้าง และไม่ค่อยได้พูดเท่าไร แต่พอตอนเที่ยงเธอทำผมประหลาดใจด้วยการแนะนำผมกับคนอื่นๆที่อยู่ในชุมนุมแห่งนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ผมรู้ได้ว่าคนเหล่านี้ก็รู้สึกต่อกันแบบครอบครัวอย่างที่ผมรู้สึก พวกเขามีความผูกพันธ์และประสบการณ์หลายๆอย่างร่วมกัน ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนนอก แต่พวกเขาก็เปิดใจรับผมอย่างอบอุ่น ซึ่งความประทับใจนี้ยากที่จะลืมลง

cc LittleTigerz Tainsri
     วันเดียวกันนี้เธอทำผมประหลาดใจอีก ข้อเท็จจริงคือผมมีเวลาให้กับเธอแค่เพียงตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายผมมีนัดกับเพื่อน ผมกะจะแค่บอกลาเธอและไปตามแผนของผมที่วางเอาไว้ แต่สิ่งที่เธอทำให้ผมประหลาดใจคือการที่เธอตัดสินใจไปด้วย นั่นหมายความว่าผมจะได้ใช้เวลากับเธออีกหลายชั่วโมง ถึงแม้ว่าผมจะเหนื่อยจนแทบหมดแรง และมีอาการไข้อ่อนๆ เพราะทำงานหนักมาทั้งอาทิตย์ แต่เวลาที่ได้เดินกับเธอและเพื่อน ได้ดูว่าเธอเข้ากับเพื่อนผมมั้ย แค่นั้นผมก็ว่าคุ้มแล้ว แต่เหตุการณ์ที่น่าจดจำสุดกลับเป็นตอนที่เราเดินทางกลับซึ่งเพื่อนผมมาส่งแล้วหลงทาง ข้อเท็จจริงคือผมมั่นใจแค่ 50% ว่าผมจะพาเราไปสู่จุดหมายที่เราต้องการได้ แต่ในที่สุดผมก็พามาถึงและบอกได้เลยว่า ดีใจมากที่ไม่หน้าแตก


     ระหว่างเดินทางกลับผมหลับเกือบตลอดทาง ผมบอกได้เลยว่าผมเหนื่อยมาก ในสถานการณ์ปกติแล้วผมจะไม่หลับเด็ดขาด แต่เพราะผมเชื่อว่าเธอจะปกป้องผมได้อย่างที่ผมมั่นใจว่าผมปกป้องเธอได้ ทำให้ผมหลับสนิทจนเกือบถึงหอเลยทีเดียว พอกลับมาแล้วถึงแม้ผมจะมีเวลาเหลือไม่กี่ ชม. ต้องไปทำงานต่อ เธอก็ชวนผมไปกินข้าวด้วยกับครอบครัวเธอในชุมนุมนั้น แม้ว่าในตอนแรกผมจะปฏิเสธไป แต่ต่อมาผมตอบตกลงและได้อยู่กินข้าวเย็นด้วยจนเสร็จ ผมบอกได้เลยว่าถ้าเลือกปฏิเสธจริงๆ ผมคงจะพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย พอถึงเวลาต้องลาเพราะผมต้องประชุมงานต่อ ผมได้พูดย้ำกับเธอประมาณว่า ไม่ต้องสนว่าผมจะประชุมอยู่ ถ้าหากมีอะไรก็ให้โทรหาเลย ผมคิดหลังจากที่แยกกับเธอ ผมว่าคงมีไม่กี่คนในโลกหรอกที่ผมจะยอมทำแบบนี้ และผมดีใจมากที่ในสุดผมก็หาคนนั้นเจอ


Comments